กูเกิลเพิ่มฟีเจอร์ +1 ให้ผู้ใช้ "Like" ผลการค้นหา
เขียนโดย
มิตรภาพการพิมพ์,ออกแบบสื่อสิ่งพิมพ์ทุกชนิด,รับวาดรูปล้อเลียน,
วันอาทิตย์ที่ 3 เมษายน พ.ศ. 2554
กูเกิลประกาศเปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ "+1" ที่ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถแสดงความชื่นชอบแก่ผลการค้นหาและโฆษณาที่โดนใจได้ มาในรูปปุ่ม +1 ให้ผู้ใช้ได้กดเพื่อแนะนำเพื่อนว่าลิงก์เว็บไซต์นี้มีคุณภาพไม่ผิดหวัง เชื่อ +1 จะสามารถเป็นสัญลักษณ์เพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือให้ผลการค้นหาของกูเกิลได้ อย่างเป็นรูปธรรม
ฟีเจอร์ +1 จะปรากฏขึ้นหลังจากมีการค้นหาข้อมูลบนเว็บไซต์ โดยจะมีปุ่ม "+1" ต่อท้ายลิงก์ของผลการค้นหา เมื่อมีการคลิกปุ่มดังกล่าว ผู้ใช้ที่มีรายชื่ออยู่บนกูเกิลโปร์ไฟล์ของผู้ใช้กูเกิลจะ
สามารถมองเห็นชื่อ ของเพื่อนที่กด +1 ซึ่งจะปรากฏอยู่ด้านล่างของลิงก์เว็บไซต์นั้นๆ ทำให้เว็บไซต์ที่ปรากฏในหน้าผลการค้นหามีความน่าเชื่อถือมากขึ้น โดยจะเป็นประโยชน์แก่เพื่อนที่อาจค้นหาด้วยคำค้นเดียวกันในครั้งต่อไป
ความเคลื่อนไหวเรื่องการเปิดทางให้ผู้ใช้ได้แนะนำเว็บไซต์แก่เพื่อน ครั้งนี้ของกูเกิลถูกมองว่าเป็นการตอบโต้เครือข่ายสังคมอย่างเฟซบุ๊ก (Facebook) ซึ่งมีปุ่ม Like ให้กดเพื่อให้ผู้ใช้แสดงความชื่นชอบความเห็น รูปภาพ หรือวิดีโอใดๆ อย่างไรก็ตาม ผู้บริหารของกูเกิลปฏิเสธและบอกว่าเป็นความพยายามในการเพิ่มคุณสมบัติด้านสังคมของกูเกิลเอง โดย นอกจากหน้าผลการค้นหาของกูเกิล กูเกิลยังมีแผนให้เจ้าของเว็บไซต์อื่น ทั้งที่ลงและไม่โฆษณากับกูเกิลไว้ สามารถนำปุ่ม +1 ไปติดไว้ที่หน้าเว็บเพจได้ด้วย
อย่างไรก็ตาม มีการตั้งข้อสังเกตว่าเมื่อมีการคลิก +1 ระบบของกูเกิลจะทำการเก็บบันทึกข้อมูลการค้นหาที่ผู้ใช้งานชื่นชอบเอาไว้ เพื่อใช้ในการเลือกแสดงผลโฆษณาให้สอดคล้องกับข้อมูลที่ชื่นชอบแน่นอน เช่น หากผู้ใช้ค้นหาคำว่า "Coffee" แล้วคลิก +1 ระบบอาจแสดงผลโฆษณากาแฟสตาร์บักหรือแบรนด์อื่นๆ โดยเชื่อกันว่าคุณสมบัตินี้จะทำให้กูเกิลมีข้อมูลให้นักการตลาดสามารถใช้ เพื่อเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ตรงกลุ่มมากขึ้น
นอกจากนี้ นักวิเคราะห์ยังมองว่ากูเกิลจะสามารถแก้ปัญหา"คอนเทนต์ฟาร์มเกลื่อนกู เกิล"ได้ เนื่องจากอัลกอริทึมกูเกิลที่เน้นให้คะแนนเว็บไซต์ที่มีผู้ค้นหาเข้าเยี่ยม ชมมากที่สุด แล้วแสดงผลลิงก์ดังกล่าวเป็นอันดับต้นๆของการค้นหานั้นไม่สามารถบอกได้ชัดเจนว่าผู้เข้าชมเว็บไซต์ส่วนใหญ่จะประทับใจข้อมูลบนเว็บไซต์นั่นหรือไม่ เพราะ วิธีดังกล่าวทำให้เว็บไซต์ที่วางบทบาทเป็นนักรวบรวมข้อมูลจากหลายเว็บไซต์ (คอนเทนต์ฟาร์ม) กลายเป็นผลลิงก์ที่มีอันดับการค้นหาในกูเกิลเหนือกว่าเว็บไซต์เจ้าของข้อมูล โดยตรง จุดนี้ คุณสมบัติ +1 จะทำให้ผลการค้นหาของกูเกิลมีความน่าเชื่อถือมากยิ่งขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม
ทั้งหมดนี้ ผู้บริหารกูเกิลระบุว่า สถิติการ +1 อาจถูกนำมาใช้ในระบบอัลกอริทึมของกูเกิล เพื่อคำนวณอันดับการแสดงผลการค้นหาในอนาคต แต่ยังไม่ใช่ขณะนี้
สำหรับผู้ใช้ที่ต้องการทดสอบคุณสมบัติ +1 ของกูเกิล จะต้องสร้าง Google Profile เพื่อรวบรวมเครือข่ายผู้ติดต่อซึ่งจะสามารถชมลิงก์ที่ถูกกด +1 ได้ โดยสามารถใช้ได้ร่วมกับเครือข่ายผู้ติดต่อในนานาบริการของกูเกิลทั้ง Gmail หรือในบริการโปรแกรมแชตของกูเกิล ระยะแรกจะให้บริการเฉพาะผู้ใช้ในสหรัฐฯเท่านั้น
นี่ ถือเป็นความพยายามอีกครั้งของกูเกิลในแง่เครือข่ายสังคม หลังจาก"Buzz"โครงการเครือข่ายสังคมที่กูเกิลตั้งใจพัฒนาขึ้นนั้นล้มไม่เป็น ท่า โดยล่าสุด กูเกิลตัดสินใจยอมความกับคณะกรรมการการค้าสหรัฐฯหรือ FTC ซึ่งตั้งข้อกล่าวหาว่ากูเกิลใช้กลยุทธ์หลอกลวงและละเมิดนโยบายความเป็นส่วน ตัวด้วย Buzz ซึ่งถูกเปิดตัวในปี 2010 ที่ผ่านมา โดยกูเกิลยินยอมให้ FTC ตรวจสอบอย่างอิสระทุกปี ซึ่งจะมีผลต่อเนื่องตลอด 20 ปีข้างหน้า
ข่าวจาก : ผู้จัดการออนไลน์
วันที่ : 1 เมษายน 2554 เวลา 10:20 น.
ฟีเจอร์ +1 จะปรากฏขึ้นหลังจากมีการค้นหาข้อมูลบนเว็บไซต์ โดยจะมีปุ่ม "+1" ต่อท้ายลิงก์ของผลการค้นหา เมื่อมีการคลิกปุ่มดังกล่าว ผู้ใช้ที่มีรายชื่ออยู่บนกูเกิลโปร์ไฟล์ของผู้ใช้กูเกิลจะ
สามารถมองเห็นชื่อ ของเพื่อนที่กด +1 ซึ่งจะปรากฏอยู่ด้านล่างของลิงก์เว็บไซต์นั้นๆ ทำให้เว็บไซต์ที่ปรากฏในหน้าผลการค้นหามีความน่าเชื่อถือมากขึ้น โดยจะเป็นประโยชน์แก่เพื่อนที่อาจค้นหาด้วยคำค้นเดียวกันในครั้งต่อไป
ความเคลื่อนไหวเรื่องการเปิดทางให้ผู้ใช้ได้แนะนำเว็บไซต์แก่เพื่อน ครั้งนี้ของกูเกิลถูกมองว่าเป็นการตอบโต้เครือข่ายสังคมอย่างเฟซบุ๊ก (Facebook) ซึ่งมีปุ่ม Like ให้กดเพื่อให้ผู้ใช้แสดงความชื่นชอบความเห็น รูปภาพ หรือวิดีโอใดๆ อย่างไรก็ตาม ผู้บริหารของกูเกิลปฏิเสธและบอกว่าเป็นความพยายามในการเพิ่มคุณสมบัติด้านสังคมของกูเกิลเอง โดย นอกจากหน้าผลการค้นหาของกูเกิล กูเกิลยังมีแผนให้เจ้าของเว็บไซต์อื่น ทั้งที่ลงและไม่โฆษณากับกูเกิลไว้ สามารถนำปุ่ม +1 ไปติดไว้ที่หน้าเว็บเพจได้ด้วย
อย่างไรก็ตาม มีการตั้งข้อสังเกตว่าเมื่อมีการคลิก +1 ระบบของกูเกิลจะทำการเก็บบันทึกข้อมูลการค้นหาที่ผู้ใช้งานชื่นชอบเอาไว้ เพื่อใช้ในการเลือกแสดงผลโฆษณาให้สอดคล้องกับข้อมูลที่ชื่นชอบแน่นอน เช่น หากผู้ใช้ค้นหาคำว่า "Coffee" แล้วคลิก +1 ระบบอาจแสดงผลโฆษณากาแฟสตาร์บักหรือแบรนด์อื่นๆ โดยเชื่อกันว่าคุณสมบัตินี้จะทำให้กูเกิลมีข้อมูลให้นักการตลาดสามารถใช้ เพื่อเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ตรงกลุ่มมากขึ้น
นอกจากนี้ นักวิเคราะห์ยังมองว่ากูเกิลจะสามารถแก้ปัญหา"คอนเทนต์ฟาร์มเกลื่อนกู เกิล"ได้ เนื่องจากอัลกอริทึมกูเกิลที่เน้นให้คะแนนเว็บไซต์ที่มีผู้ค้นหาเข้าเยี่ยม ชมมากที่สุด แล้วแสดงผลลิงก์ดังกล่าวเป็นอันดับต้นๆของการค้นหานั้นไม่สามารถบอกได้ชัดเจนว่าผู้เข้าชมเว็บไซต์ส่วนใหญ่จะประทับใจข้อมูลบนเว็บไซต์นั่นหรือไม่ เพราะ วิธีดังกล่าวทำให้เว็บไซต์ที่วางบทบาทเป็นนักรวบรวมข้อมูลจากหลายเว็บไซต์ (คอนเทนต์ฟาร์ม) กลายเป็นผลลิงก์ที่มีอันดับการค้นหาในกูเกิลเหนือกว่าเว็บไซต์เจ้าของข้อมูล โดยตรง จุดนี้ คุณสมบัติ +1 จะทำให้ผลการค้นหาของกูเกิลมีความน่าเชื่อถือมากยิ่งขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม
ทั้งหมดนี้ ผู้บริหารกูเกิลระบุว่า สถิติการ +1 อาจถูกนำมาใช้ในระบบอัลกอริทึมของกูเกิล เพื่อคำนวณอันดับการแสดงผลการค้นหาในอนาคต แต่ยังไม่ใช่ขณะนี้
สำหรับผู้ใช้ที่ต้องการทดสอบคุณสมบัติ +1 ของกูเกิล จะต้องสร้าง Google Profile เพื่อรวบรวมเครือข่ายผู้ติดต่อซึ่งจะสามารถชมลิงก์ที่ถูกกด +1 ได้ โดยสามารถใช้ได้ร่วมกับเครือข่ายผู้ติดต่อในนานาบริการของกูเกิลทั้ง Gmail หรือในบริการโปรแกรมแชตของกูเกิล ระยะแรกจะให้บริการเฉพาะผู้ใช้ในสหรัฐฯเท่านั้น
นี่ ถือเป็นความพยายามอีกครั้งของกูเกิลในแง่เครือข่ายสังคม หลังจาก"Buzz"โครงการเครือข่ายสังคมที่กูเกิลตั้งใจพัฒนาขึ้นนั้นล้มไม่เป็น ท่า โดยล่าสุด กูเกิลตัดสินใจยอมความกับคณะกรรมการการค้าสหรัฐฯหรือ FTC ซึ่งตั้งข้อกล่าวหาว่ากูเกิลใช้กลยุทธ์หลอกลวงและละเมิดนโยบายความเป็นส่วน ตัวด้วย Buzz ซึ่งถูกเปิดตัวในปี 2010 ที่ผ่านมา โดยกูเกิลยินยอมให้ FTC ตรวจสอบอย่างอิสระทุกปี ซึ่งจะมีผลต่อเนื่องตลอด 20 ปีข้างหน้า
ข่าวจาก : ผู้จัดการออนไลน์
วันที่ : 1 เมษายน 2554 เวลา 10:20 น.










|
|
||||||
|
|
หมวดหมู่บทความ
- กราฟฟิกและการออกแบบ
- การ์ตูน-บทนิยาย
- ข่าวสารวงการไอที
- เขียนโปรแกรมด้วยJAVA
- เขียนโปรแกรมด้วย VB.NET
- ความรู้เรื่องเว็บไซต์/SEO
- คอมพิวเตอร์/ซ่อมบำรุง
- แจกเทมเพลตเว็บฟรี
- โซนเกมส์รีวิวส์/เทคนิคเกมส์
- ดูหนังออนไลน์/ตัวอย่างหนัง
- ทำมาหากิน
- แนะแนวอาชีพ
- บทความ/สาระความรู้ทั่วไป
- ประวัติพระเถราจารย์
- ปืน-ทหารและยุทโธปกรณ์
- เรื่องแปลกลึกลับ/ผีสยองขวัญ
- สถานที่ท่องเที่ยวทั่วไทย
- สร้างรายได้กับ Amazon
- สุขภาพและความงาม
บทความยอดฮิต
-
เป็นอนุสรณ์แด่วีรกรรมอันกล้าหาญของวีรสตรีไทย หรือย่าโม ซึ่งเป็นชื่อที่เรียกกันติดปากโดยทั่วไป สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2476 ตั้งอยู่กลางเมือง ช...
-
ในประเทศไทย ดินแดนแห่งพระพุทธศาสนา มีพระอริยสงฆ์มากมาย จึงเกิดปาฏิหาริย์ สรีระของพระคุณเจ้าจำนวนมาก ไม่เน่าสลายไปตามกาลเวลา เฉพาะในรอบห้าสิ...
-
เรื่อง นี้เกิดที่หอหญิง เป็นเรื่องของนักศึกษาหญิงที่เข้ามาพักในหอในแล้วไปมีอะไรกับผู้ชาย แล้วเกิดพลาดตั้งครรภ์ขึ้นมา รู้ตัวเอาตอนท้องได้ 4...
-
1.หยุดการเติม น้ำตาล หลายๆช้อน การ ลดน้ำตาล ที่อาจจะยาก แต่ไม่เกินความสามารถของคุณก็คือ การ ลดการเติมน้ำตาล ในอาหารและเครื่องดื่มค่ะ บางคนช...
-
การ สำรวจล่าสุดพบ ปี 2015 จะเป็นปีที่สัดส่วนระบบปฏิบัติการในตลาดโทรศัพท์มือถือเกิดการเปลี่ยนแปลง ครั้งใหญ่ โดยแอนดรอยด์มีแววคว้าอันดับ 1 ในต...
-
ดูหนังออนไลน์ Fast & Furious 5 เร็วแรงทะลุนรก 5 [พากย์ไทย] เรื่องย่อ Fast & Furious 5 เร็วแรงทะลุนรก 5 [พากย์ไทย] วิน ดีเซล และพอล ว...
-
Visual Basic.NET เป็นเวอร์ชั่นใหม่ล่าสุดของภาษา Visual Basic ซึ่งอยู่ในเครื่องมือพัฒนาแอพพลิเคชั่นสำหรับแพลตฟอร์ม .NET นั่นคือ Microsoft...
-
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ดร.ริชาร์ด ฮูเวอร์ ได้เปิดเผยว่า เขาได้ค้นพบซากฟอสซิลหนอนต่างดาวขนาดจุลภาคจากหินอุกกาบาต 3 จำนวน ซากฟอลซิลเหล่...
-
กีฬาชนิดหนึ่งที่กำลังเป็นที่นิยมในหมู่วัยรุ่นต่างประเทศครับ เคยเอามาประกอบภาพยนตร์ในประเทศไทยแล้ว กับเรื่องท้าชนที่พี่แบงค์แสดงนั่นเอง แต่ย...
-
1. เปิดภาพที่ต้องการขึ้นมา 2.ดูดสีผิวแล้วลงทับบางๆ ไล่ไปจนถึงแสงเงา 3.ใช้สีเข้มกับบรัชเล็กๆ ตัดเส้นผิวบ้าง เพื่อให้ดูเป็นเส้นตัดภา...
แสดงความคิดเห็น