ตำแหน่งว่างโฆษณา
สามารถใส่รายละเอียดได้สามบันทัด
พร้อมรูปภาพช่วยในการดึงดูดลูกค้า
ด่วน!! รีบจองก่อนใคร
สนใจติดต่อ 085-418-7066
ตำแหน่งว่างโฆษณา
สามารถใส่รายละเอียดได้สามบันทัด
พร้อมรูปภาพช่วยในการดึงดูดลูกค้า
ด่วน!! รีบจองก่อนใคร
สนใจติดต่อ 085-418-7066
ตำแหน่งว่างโฆษณา
สามารถใส่รายละเอียดได้สามบันทัด
พร้อมรูปภาพช่วยในการดึงดูดลูกค้า
ด่วน!! รีบจองก่อนใคร
สนใจติดต่อ 085-418-7066
ตำแหน่งว่างโฆษณา
สามารถใส่รายละเอียดได้สามบันทัด
พร้อมรูปภาพช่วยในการดึงดูดลูกค้า
ด่วน!! รีบจองก่อนใคร
สนใจติดต่อ 085-418-7066

ทำภาพถ่ายเป็นซีจี

เขียนโดย มิตรภาพการพิมพ์,ออกแบบสื่อสิ่งพิมพ์ทุกชนิด,รับวาดรูปล้อเลียน,

1. เปิดภาพที่ต้องการขึ้นมา




2.ดูดสีผิวแล้วลงทับบางๆ ไล่ไปจนถึงแสงเงา




3.ใช้สีเข้มกับบรัชเล็กๆ ตัดเส้นผิวบ้าง เพื่อให้ดูเป็นเส้นตัดภาพCG




4.เน้นความเข้มของตา ด้วยการตัดเส้นหนาๆ พร้อมใส่แสงเงา ให้เหมือนตาการ์ตูน




5.ลงสีโทนแดงๆ ไปในส่วนที่เป็นเงา เพื่อให้เป็นสีที่ตัดกัน
จะเหมือนการ์ตูนในภาพCGมากขึ้น ไล่บางๆ ไปจนเข้ม




จนทั่วในส่วนของเงาใบหน้า




6.เก็บลายละเอียดเล็กๆน้อยๆ







7.ดูดสีผมที่อ่อนที่สุด มาไล่บรัชตามผมที่เรียงตัวกันของภาพ



จากนั้น ดูดสีดำมาไล่ตามผมที่เรียงตัว เพื่อให้ดูเป็นเงา




8.เก็บรายละเอียดผมด้วยการ ไล่สีสว่างๆ เป็นเงาผม และ ลงสีบางๆที่ปาก






9.ในส่วนของผิวหนังและเสื้อผ้าก็ใช้วิธีเดียวกันกับการลงสีผิวบนใบหน้า




            

ทริป : ต้องดูดสีที่สว่างที่สุดมาลงทับภาพก่อนเสมอ
แล้วค่อยดูดสีเข้มมาลงเงา



เป็นอันเสร็จ





ลองไปประยุกต์ใช้กะ PTS ก็ได้นะค่ะ ^^


ใครที่เอาไปลงที่อื่น กรุณาให้เครดิตด้วยเด้ออ
นั้งทำนานมาก TTATT

Credits http://writer.dek-d.com/dek-d/writer/viewlongc.php?id=718820&chapter=1

เตือนภัย ระวังไวรัสบน Facebook กำลังระบาด

เขียนโดย มิตรภาพการพิมพ์,ออกแบบสื่อสิ่งพิมพ์ทุกชนิด,รับวาดรูปล้อเลียน,

ไวรัส facebook




ตัวอย่างหน้าเว็บที่ถูกส่งมาจากลิงค์

เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
บทความโดย Gorillao

           ปัญหาอีกอย่างสำหรับผู้ใช้งาน Facebook ทุกคนต้องเจอนอกเหนือจากปัญหาสแปมแล้ว ก็คือ ปัญหาไวรัสที่แฝงตัวอยู่ในรูปแบบต่าง ๆ เช่น ข้อความเชิญให้คลิกลิงก์, ให้ดาวน์โหลดไฟล์ต่าง ๆ ซึ่งถ้าหากผู้ใช้งานหลงเชื่อและทำตามก็อาจจะตกเป็นเหยื่อแถมติดไวรัสที่จะ เข้ามาสร้างความเสียหายให้กับคอมพิวเตอร์ของผู้ใช้งานได้

           ไวรัสที่กำลังระบาดอยู่ในช่วงนี้ จะมาในรูปแบบทักทายผู้ใช้งานผ่านระบบแชตของเฟซบุ๊กด้วยข้อความเริ่มต้นว่า "hi how are you" เมื่อ ผู้ใช้งานพิมพ์ข้อความโต้ตอบก็จะมีข้อความตอบกลับมาเหมือนกับว่ากำลังสนทนา อยู่กับผู้ใช้งานคนนั้นจริง ๆ แต่ความจริงแล้วไม่ใช่เลย มันเป็นไวรัสที่จะหลอกล่อให้คุณตายใจ โดยการชวนคุณคุยและส่งลิงก์ต่าง ๆ มาให้ผู้ใช้งานเฟซบุ๊กคลิกเข้าไปดู เมื่อผู้ใช้งานหลงเชื่อคลิกเข้าไปชมภายในลิงก์ที่แสดงก็จะมีข้อความต่าง ๆ ที่แนะนำให้ผู้ใช้งานนั้นทำตามหรือดาวน์โหลด

           และไวรัสที่กำลังระบาดอยู่บนเฟซบุ๊กล่าสุดก็คือ "Flash-Player.exe" ที่มาพร้อมกับลิงก์ที่ถูกส่งมาให้ผู้ใช้งานดาวน์โหลดและติดตั้งลงบนคอมพิวเตอร์


วิธีการป้องกันจากไวรัสบน Facebook

           1. หากผู้ใช้งานเจอข้อความที่ส่งมาทาง Facebook Chat ด้วยข้อความ "hi how are you" ไม่ต้องไปสนใจ ให้ดำเนินการรายงานหรือแจ้งว่าเป็นสแปม ตามรูป Report as Spam หรือ รายงานว่าเป็นสแปม


ไวรัส facebook


           2. สำหรับผู้ใช้งานที่เผลอไปดาวน์โหลดและติดตั้งไวรัสตัวนี้ลงบนคอมพิวเตอร์ สามารถแก้ไขโดยใช้โปรแกรม MalwareByte AntiMalware สแกนสามารถกำจัดได้

           วิธีแก้ปัญหาเพิ่มเติม http://www.pantip.com/tech/software/topic/SV2990195/SV2990195.html

การเลี้ยงกุ้งเครฟิชเชิงพาณิชย์

เขียนโดย มิตรภาพการพิมพ์,ออกแบบสื่อสิ่งพิมพ์ทุกชนิด,รับวาดรูปล้อเลียน,



ลุงฉะอ้อน เผนโคกสูง เกษตรกรสำนึกรักบ้านเกิด จ.นครราชสีมา เจ้าของผลงานกบคอนโด มีการคิดค้นวิธีการเลี้ยงแบบใหม่ เพื่อลดต้นทุน และเพิ่มมูลค่าให้สินค้า ซึ่งล่าสุดนำกุ้งเครฟิชมาเลี้ยงจนประสบความสำเร็จ เพราะนอกจากจะเลี้ยงเป็นกุ้งสวยงามในตู้ปลาแล้ว ยังสามารถเลี้ยงเชิงพาณิชย์รายได้งามอีกด้วย

การเลี้ยงกุ้งเครฟิชเชิงพาณิชย์   

การเตรียมบ่อ
ลักษณะสร้างบ่อ   ใช้ไม้ไผ่ปักเป็นหลักไว้ 4 มุมแล้วเตรียมพลาสติกใส หรือพลาสติกสีดำขนาดยาว 4 เมตร กว้าง 2 เมตร ลึก 50 เซนติเมตรนำมุมพลาสติกทั้ง 4 มุมมามัดติดกับหลักไม้ไผ่ทำเป็นบ่อและยกให้ขอบบ่อสูงขึ้นหลังจากใส่น้ำ ยกให้สูงประมาณ 50 เซนติเมตร
ขั้นตอนการเลี้ยง
         
เมื่อได้บ่อแล้วให้ปล่อยน้ำเข้าไปในระดับน้ำสูงประมาณ 40 เซนติเมตรนำกุ้งเครฟิชพ่อพันธุ์-แม่พันธุ์จำนวน 1 คู่ มาปล่อยในบ่อ
         
การเลี้ยงกุ้งเครฟิชสำหรับตัวเมียจะมีการวางไข่ทุก4-6 เดือน เมื่อเลี้ยงพ่อพันธุ์-แม่พันธุ์ ได้อายุประมาณ 4-6 เดือนให้เริ่มตักกุ้งขึ้นมาดูว่ามีการออกไข่หรือยังถ้ามีการออกไข่แล้วให้นำกุ้งแยกออกมาโดยนำมาใส่ไว้ในตะกร้าสี่เหลี่ยมที่มีรูระบาย ใช้ตะกร้า 2 ใบประกบกันนำกุ้งไปอยู่ข้างในแล้วมัดทุ่นลอยน้ำไว้ครึ่งหนึ่งเพื่อให้กุ้งสลัดไข่ออกป้องกันกุ้งกินไข่ตัวเอง (กุ้งจะต้องเลี้ยงในที่เงียบเพื่อช่วยในการวางไข่หากมีเสียงอึกทึกจะทำให้กุ้งเวลาออกไข่มันจะกินไข่ตัวเองจนหมดเพราะกลัวว่าไข่จะได้รับอันตราย)

ขนาดบ่อยาว 4 เมตร กว้าง 2 เมตร ลึก 50 ซ.ม.จะปล่อยลูกกุ้งได้ 500 ตัวกุ้งจะมีการขยายตัวทุก 6 เดือน และลอกคราบออกเอง ใน 1 ปีกุ้งจะวางไข่ 2 ครั้ง ถ้าเป็นกุ้งสาวรุ่นแรกจะได้ไข่ที่ออกมาเป็นลูกกุ้งประมาณ 200-300 ตัวหากเป็นกุ้งที่โตเต็มที่อายุ1 ปี จะได้ไข่ออกมาเป็นลูกกุ้งประมาณ 400-500 ต่อตัวเมื่อเลี้ยงอายุครบ 12 เดือน จะได้กุ้งน้ำหนักประมาณ 7-9 ตัว ต่อ 1 กิโลกรัม
อาหารอาจจะให้ไรแดงก็ได้ พอกุ้งมีอายุประมาณ 2 เดือน ก็จะกินอาหารประเภทเนื้อปลานิลสับ เศษเนื้อปลาทู หรือปลาเล็กสับละเอียดก็ได้ให้เดือนละครั้งก็พอ
          
นอกจากการเลี้ยงแบบบ่อพลาสติกยกสูงแล้วยังสามารถเลี้ยงในนาข้าวได้ด้วยเช่นกัน  กุ้งเครนฟิชสามารถจำหน่ายได้ราคาอยู่ที่กิโลกรัมละ1,200 บาทหรือขีดละประมาณ 120 บาท ในการเลี้ยงเมื่อจดทะเบียนการเลี้ยงแบบพาณิชย์มีการรับรองเรื่องการเลี้ยงส่งออกจะสามารถขายได้ถึงกิโลกรัมละ 1,500 บาท

วิธีสังเกตกุ้งที่กำลังจะลอกคาบคับ

ผมลองแล้วได้ผลคับ เหมาะสำหรับเพื่อนๆที่เลี้ยงกุ้งรวมกันหลายๆตัวคับ ก็คือว่า ให้ดูจากส่วนหัวของกุ้ง มันจะเริ่มเปิดออกจากลำตัว (น้อยมากต้องดูดีๆ) แต่ถ้าเทียบกับกุ้งตัวอื่นจะเห็นได้ชัด ไม่ต้องดูทุกตัวคับ ดูแต่ตัวที่มันไม่ได้ลอกนานแล้ว ถ้าสังเกตเห็นแล้ว อีกประมาณ 6-8 ชั่วโมงมันจะลอกคับ ให้นำมันแยกจากเพื่อนๆมันได้เลยคับ แล้วกุ้งจะลอกออกมาแล้วสมบูรณ์คับ แต่ถ้าวิธีนี้เพื่อนรู้กันแล้วก็ต้องขอโทษด้วยนะคับ ขอบคุณคับที่อ่าน

 
ข้อมูลโดย http://tongcrayfish.blogspot.com/

ความไม่ลงรอยของครุฑและพญานาค

เขียนโดย มิตรภาพการพิมพ์,ออกแบบสื่อสิ่งพิมพ์ทุกชนิด,รับวาดรูปล้อเลียน,

เคยสังเกตภาพยนตร์ นิยาย หรือภาพวาดในสมัยก่อนมั้ยครับ จะเห็นรูปครุฑใช้เท้าเกี่ยวพญานาคบินไปบนฟ้าบ้าง หรือครุฑโดนพญานาครัดหรือพ่นน้ำใส่บ้าง เพราะเหตุอันใดครุฑกับพญานาคถึงได้ไม่ถูกัน เราไปดูตำนานเรื่องนี้กันดีกว่า
 
ครุฑ เป็นพญานกที่มีรูปครึ่งมนุษย์ ครึ่งนกอินทรี เป็นเทพพาหนะของพระวิษณุ เป็นโอรสของพระกัศยปมุนี และนางวินตา พระกัศยปมุนีเป็นฤษีที่มีอำนาจมากตนหนึ่ง นอกจากนางวินตาแล้ว ก็ยังมีนางกัทรู ซึ่งเป็นพี่น้องกับนางวินตาเป็นภริยาอีกคน โดยนางกัทรูได้ขอพรจากสามีให้มีลูกจำนวนมาก และต่อมาก็ได้ให้กำเนิดนาคหนึ่งพันตัว อาศัยอยู่ในแดนบาดาล ส่วนนางวินตาขอลูกเพียงสององค์และขอให้ลูกมีอำนาจวาสนา
 
ต่อ มานางได้คลอดลูกออกมาเป็นไข่สองฟอง คือ อรุณ และครุฑ ซึ่งต่อมาอรุณได้ไปเป็นสารถีของสุริยเทพ ส่วนครุฑเมื่อแรกเกิดว่ากันว่า มีร่างกายขยายตัวออกใหญ่โตจนจรดฟ้า ดวงตาเมื่อกระพริบเหมือนฟ้าแลบ เวลาขยับปีกทีใด ขุนเขาก็จะตกใจหนีหายไปพร้อมพระพาย รัศมีที่พวยพุ่งออกจากกายมีลักษณะดั่งไฟไหม้ทั่วสี่ทิศ
 
ครั้งหนึ่งนางกัทรูและนางวินตาได้พนันกัน ถึงสีของม้าที่เกิดคราวกวนเกษียรสมุทร โดยว่าใครแพ้ต้องเป็นทาสอีกฝ่ายห้าร้อยปี นางวินตาทายว่าม้าสีขาว แต่นางกัทรูทายว่าสีดำ ซึ่งความจริงม้าเป็นสีขาวดังที่นางวินตาทาย แต่นางกัทรูใช้อุบายให้นาคลูกของตนแปลงเป็นขนสีดำไปแซมอยู่เต็มตัวม้า นางวินตาไม่ทราบในอุบายเลยยอมแพ้ ต้องเป็นทาสและถูกขังอยู่ในแดนบาดาลถึงห้าร้อยปี ทำให้ครุฑและนาคต่างก็ไม่ถูกกันนับแต่นั้น
 
ครั้นต่อมาครุฑได้ทราบความจริงถึงอุบายของ นางกัทรู แต่เพื่อช่วยแม่ให้เป็นอิสระ ครุฑจึงได้ทำความตกลงกับพวกพญานาคที่ต้องการเป็นอมตะว่าจะไปนำน้ำอมฤตที่ อยู่กับพระจันทร์มาให้ ครั้นแล้วก็บินไปสวรรค์ คว้าพระจันทร์มาซ่อนไว้ใต้ปีก แต่ถูกพระอินทร์และทวยเทพติดตามมา และเกิดต่อสู้กันขึ้น แต่ทวยเทพทั้งหมดแพ้ครุฑ ยกเว้นพระวิษณุเท่านั้นที่ไม่แพ้ แต่ก็แย่ไปเหมือนกัน ดังนั้นต่างจึงทำความตกลงหย่าศึก โดยพระวิษณุหรือพระนารายณ์สัญญาว่าจะให้ครุฑเป็นอมตะ และให้อยู่ตำแหน่งสูงกว่าพระองค์
 
ส่วนครุฑก็ถวายสัญญาว่าขอเป็นพาหนะของพระ วิษณุ และเป็นธงครุฑพ่าห์สำหรับปักอยู่บนรถศึกของพระวิษณุอันเป็นที่สูงกว่า นี่เองจึงเป็นที่มาว่าเหตุใดครุฑจึงเป็นพาหนะของพระวิษณุ ส่วนหม้อน้ำอมฤตนั้น พระอินทร์ได้ตามมาขอคืน ครุฑก็บอกว่าตนต้องรักษาสัตย์ที่จะนำไปให้นาคเพื่อไถ่มารดาให้พ้นจากการเป็น ทาส และให้พระอินทร์ตามไปเอาคืนเอง เมื่อครุฑเอาน้ำอมฤตไปให้นาคก็วางไว้บนหญ้าคา (และว่าได้ทำน้ำอมฤตหยดบนหญ้าคา ๒-๓ หยด ด้วยเหตุนี้ หญ้าคาจึงถือเป็นสิ่งมงคล ใช้ประพรมน้ำมนต์ ส่วน งูเมื่อเห็นน้ำอมฤตบนหญ้าคาก็ไปเลียกิน ด้วยความไม่ระวัง จึงถูกคมหญ้าคาบาดกลางเป็นทางยาว งูจึงมีลิ้นแตกเป็นสองแฉกสืบมาจนทุกวันนี้)
 
ส่วนนาคเมื่อเห็นน้ำอมฤตก็ยินดีปล่อยนางวิ นตาแม่ครุฑให้เป็นอิสระ ขณะพากันไปสรงน้ำชำระกายเพื่อจะมากินน้ำอมฤตนั่นเอง พระอินทร์ก็นำหม้อน้ำอมฤตกลับไป ทำให้นาคไม่ได้กิน และยิ่งเพิ่มความเป็นศัตรูกับครุฑยิ่งขึ้น อย่างไรก็ดี มีเรื่องเล่าต่อมาว่า จากการที่พระอินทร์ได้ให้พรครุฑ จับนาคเป็นอาหารได้นั้น ทำให้พญานาควาสุกรีเกรงว่านาคจะสูญพันธุ์ จึงตกลงจะส่งนาคไปให้ครุฑกินที่ชายหาด วันหนึ่งถึงคราวของนาคหนุ่มชื่อสังขจูทะ จะต้องไปเป็นเหยื่อ แม่ก็ตามมาด้วยความรักและอาลัย ขอรัองอย่างไรก็ไม่ยอมกลับ วิทยา ธรตนหนึ่งชื่อว่า ชีมูตวาหน เป็นผู้มีใจบุญสุนทานตัดแล้วซึ่งโลกีย์วิสัย ได้มาพบ ก็สอบถามได้ความแล้ว จึงเสนอตัวเองปลอมเป็นนาคให้ครุฑกินแทน
 
ปรากฏว่าขณะที่ครุฑกำลังกินนาคปลอม แทนที่จะแสดงความเจ็บปวด ชีมูตวาหนกลับแสดงความปลื้มใจจนครุฑผิดสังเกตว่าต้องผิดตัวแน่ แต่สอบถามก็ไม่ยอมรับ ขณะนั้นเองนาคสังขจูทะก็ได้มาแสดงตัว ว่าตนคือเหยื่อของครุฑ เมื่อทราบความจริง ครุฑก็เกิดความสำนึกบาป และซาบซึ้งในความเสียสละของชีมูตวาหน จึงวิ่งเข้าไปในกองไฟหมายจะฆ่าตัวตายเพื่อชำระบาป แต่ชีมูตวาหนได้ร้องห้าม และว่าหากจะหยุดทำบาปก็ให้เลิกกินนาคเป็นอาหารต่อไป ครุฑก็เชื่อและได้เหาะไปนำน้ำอมฤตมาประพรมกระดูกนาคที่ตนเคยจิกกินมาแต่กาล ก่อน จนนาคทั้งหมดได้ฟื้นคืนชีวิตขึ้นมาใหม่
 
ครุฑมีชายาชื่ออุนนติหรือวินายกา โอรสชื่อ สัมปาติหรือสัมพาที และชฎายุ ตามวรรณคดีพุทธศาสนากล่าวว่าครุฑมีขนาดใหญ่มาก วัดจากปีกข้างหนึ่งไปยังอีกข้างหนึ่งได้ ๑๕๐ โยชน์ เวลากระพือปีกสามารถทำให้เกิดพายุใหญ่ เกิดมืดมนและทำลายบ้านเมืองให้หมดสิ้นไปได้ ที่อยู่ของครุฑเรียกว่า สุบรรณพิภพเป็นวิมานอยู่บนต้นสิมพลีหรือต้นงิ้ว อยู่เชิงเขาพระสุเมรุ ครุฑมีชื่อเรียกหลายนาม เช่น กาศยปิ และเวนไตย อันเป็นชื่อสืบมาจากกัศยปและวินตา บิดามารดา สุบรรณ หมายถึง ผู้มีปีกอันงาม ครุตมาน เจ้าแห่งนก สิตามัน มีหน้าสีขาว รักตปักษ์ มีปีกแดง เศวตโรหิต มีสีขาวและแดง สุวรรณกาย มีกายสีทอง คคเนศวร เจ้าแห่งอากาศ ขเคศวร ผู้เป็นใหญ่แห่งนก นาคนาศนะ ศัตรูแห่งนาค สุเรนทรชิต ผู้ชนะพระอินทร์ เป็นต้น
 
ส่วน พญานาค ก็มีตำนาน เล่าขานกันสืบต่อมาว่า
 
ตำนาน ความเชื่อเรืองพญานาคมีความเก่าแก่มาก ดูท่าว่าจะเก่ากว่าพุทธศาสนาอีกด้วย สืบค้นได้ว่ามีต้นกำเนิดมาจากอินเดียใต้ ด้วยเหตุจากภูมิประเทศทางอินเดียใต้เป็นป่าเขาจึงทำให้มีงูอยู่ชุกชุม และด้วยเหตุที่งูนั้นลักษณะทางกายภาพคือมีพิษร้ายแรง งูจึงเป็นสัตว์ที่มนุษย์ให้การนับถือว่ามีอำนาจ ชาวอินเดียใต้จึงนับถืองูเป็น สัตว์เทวะชนิดหนึ่งในเทพนิยายและตำนานพื้นบ้าน บ้างก็ว่าเป็นสัตว์ในป่าหิมพานต์ มีความเชื่อเรื่องพญานาคแพร่หลายในภูมิภาคต่างๆ ทั่วทวีปเอเชีย โดยเรียกชื่อต่างๆ กัน
 
ต้นกำเนิดความเชื่อ เรื่องพญานาคน่าจะอยู่ที่อินเดีย ด้วยมีนิยายหลายเรื่องเล่าถึงพญานาค โดยเฉพาะในมหากาพย์มหาภารตะ ซึ่งถือเป็นปรปักษ์ของพญาครุฑ ส่วนในตำนานพุทธประวัติ ก็เล่าถึงพญานาคไว้หลายครั้งด้วยกัน
 
ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ยังมีตำนานเรื่อง พญานาคอย่างแพร่หลาย ชาวบ้านในภูมิภาคนี้มักเชื่อกันว่าพญานาคอาศัยอยู่ในแม่น้ำโขง หรือเมืองบาดาล และเชื่อกันว่าเคยมีคนเคยพบรอยพญานาคขึ้นมาในวันออกพรรษาโดยจะมีลักษณะคล้าย รอยของงูขนาดใหญ่ และเมื่อไปเล่นน้ำในแม่น้ำโขงควรยกมือไหว้เพื่อเป็นการสักการะสิ่ง ศักดิ์สิทธิ์
 
ลักษณะของพญานาคตามความเชื่อใน แต่ละภูมิภาคจะแตกต่างกันไป แต่พื้นฐานคือพญานาคนั้นมีลักษณะตัวเป็นงูตัวใหญ่มีหงอนสีทองและตาสีแดง เกล็ดเหมือนปลามีหลายสีแตกต่างกันไปตามบารมี บ้างก็มีสีเขียว บ้างก็มีสีดำ หรือบ้างก็มี 7 สี และที่สำคัญคือนาคตระกูลธรรมดาจะมีเศียรเดียว แต่ตระกูลที่สูงขึ้นไปนั้นจะมีสามเศียร ห้าเศียร เจ็ดเศียรและเก้าเศียร นาคจำพวกนี้จะสืบเชื้อสายมาจาก พญาเศษนาคราช (อนันตนาคราช) ผู้เป็นบัลลังก์ของพระวิษณุนารายณ์ปรมนาท ณ เกษียณสมุทร อนันตนาคราชนั้นเล่ากันว่ามีกายใหญ่โตมหึมามีความยาวไม่สิ้นสุด มีพันศรีษะ พญานาคนั้นมีทั้งเกิดในนำและบนบก เกิดจากครรภ์และจากไข่ มีอิทฤทธิ์สามารถบันดาลให้เกิดคุณและโทษได้ นาคนั้นมักจะแปลงร่างเป็นมนุษย์รูปร่างสวยงาม
 
พญานาค เป็นสัตว์มหัศจรรย์ ที่มีคุณสมบัติพิเศษ คือ สามารถแปลงกายได้ พญานาค มีอิทธิฤทธิ์ และมีชีวิตใกล้กับคน พญานาค สามารถแปลงเป็นคนได้ เช่นคราวที่แปลงเป็นคนมาขอบวชกับพระพุทธเจ้า ในหนังสือไตรภูมิพระร่วง กล่าวถึงนาคที่ชื่อ ถลชะ ที่แปลว่า เกิดบนบก จะเนรมิตกายได้เฉพาะบนบก และนาคชื่อ ชลซะ แปลว่า เกิดจากน้ำ จะเนรมิตกายได้เฉพาะในน้ำเท่านั้น
 
พญา นาค ถึงแม้จะเนรมิตกายเป็นอะไร แต่ในสภาวะ 5 อย่าง นี้ จะต้องปรากฎเป็นงูใหญ่เช่นเดิม คือ ขณะเกิด ขณะลอกคราบ ขณะสมสู่กันระหว่างนาคกับนาค ขณะนอนหลับ โดยไม่มีสติ และที่สำคัญ ตอนตาย ก็กลับเป็นงูใหญ่เหมือนเดิม
 
พญานาค มีพิษร้าย สามารถทำอันตรายผู้อื่นได้ด้วยพิษ ถึง 64 ชนิด ซึ่งตามตำนานกล่าวว่า สัตว์จำพวกงู แมงป่อง ตะขาบ คางคก มด ฯลฯ มีพิษได้ ซึ่งก็ด้วยเหตุที่ นาคคายพิษทิ้งไว้ แล้วพวกงูไปเลีย พวกที่มาถึงก่อนก็เอาไปมาก พวกมาทีหลัง เช่น แมงป่อง กับ มด ได้พิษน้อย แค่เอาหาง เอากันไปป้ายเศษพิษ จำพวกนี้จึงมีพิษน้อย และพญานาคต้องคายพิษทุก 15 วัน
 
พญานาค อาศัย อยู่ใต้ดิน หรือบาดาล คนโบราณเชื่อว่าเมื่อบนสวรรค์มีเทพอาศัยอยู่ลึกลงไปใต้พื้นโลก ก็น่าจะมีสิ่งมีชีวิตอาศัยอยู่ ในหนังสือไตรภูมิพระร่วง กล่าวว่า ที่ที่นาคอยู่นั้นลึกลงไปใต้ดิน 1 โยชน์ หรือ 16 กิโลเมตร มีปราสาทราชวังที่วิจิตรพิสดารไม่แพ้สวรรค์ ที่มีอยู่ถึง 7 ชั้น เรียงซ้อนๆ กัน ชั้นสูงๆ ก็จะมีความสุขเหมือนสวรรค์
 
พญา นาค สามารถผสมพันธุ์กับสัตว์ชนิดอื่นได้ แปลงกายแล้วผสมพันธุ์กับมนุษย์ได้ เมื่อนาคตั้งท้องจะออกลูกเป็นไข่เหมือนงู มีทั้งพันธุ์เศียรเดียว 3, 5 และ 7 เศียร
 
สามารถ ขึ้นลง ตั้งแต่ใต้บาดาลพื้นโลก จนถึงสวรรค์ ในทุกตำนานมักจะกล่าวถึงนาคที่ขั้น-ลง ระหว่างเมืองบาดาล กับเมืองสวรรค์ ที่จะแปลงกายเป็นอะไรตามที่คิด ตามสภาวะเหตุการณ์นั้นๆ
 
โดย อัลเบิร์ต กิ๊กก๊อก
http://horamahawed.com

นกแสก...ตำนานนกมัจจุราช

เขียนโดย มิตรภาพการพิมพ์,ออกแบบสื่อสิ่งพิมพ์ทุกชนิด,รับวาดรูปล้อเลียน,

เป็นความเชื่อกันมานมนานว่าหากนกแสกเกาะหลังคาบ้านหลังไหน จะเกิดลางร้ายกับคนที่อาศัยอยู่ในบ้านหลังนั้น นกแสกเป็นนกที่ถือว่าให้ความอัปมงคลเป็นอย่างยิ่ง
 
ไม่แต่เฉพาะ คนไทยเท่านั้นที่ถือในเรื่องนี้ฝรั่งเองก็ถือเคล็ดนี้เช่นกัน ก็เพราะโดยธรรมชาติของนกแสกมักจะไม่มาปะปนอยู่ตามที่อยู่อาศัยของคนให้เห็น นัก หากเมื่อใดมีนกแสกมาเกาะที่หลังคาบ้านใดแล้วเชื่อว่าคนที่ป่วยอยู่ก็อาจเสีย ชีวิตได้
 
จึงมักจะมีคนนิยมแก้เคล็ดให้ร้ายกลายเป็น ดี ด้วยการนำเอาดอกไม้ ธูปเทียน สุรา บอกเล่าก็เพียงพอแล้ว คนโบราณบางท่านที่เคร่งมากๆ ก็อาจเพิ่มด้วย ข้าวสาร ข้าวตอก ผ้าแดง ผ้าขาวและเงินทอง
 
นกแสกนับว่าเป็นนกจำพวกนกเค้าแมวที่อาจนับได้ว่าใกล้ชิดกับมนุษย์มากที่สุด ด้วยความที่มีถิ่นอาศัยใกล้หรืออยู่ในชุมชนของมนุษย์ จึงทำให้มีความเชื่อในบางวัฒนธรรมว่า เป็นนกที่ส่งสัญญาณเตือนถึงความตาย เช่น ในความเชื่อของไทย เชื่อว่า หากนกแสกบินข้ามหลังคาบ้านผู้ใดหรือไปเกาะที่หลังคาบ้านใคร หรือส่งเสียงร้องด้วย จะต้องมีบุคคลในที่แห่งนั้นถึงแก่ความตาย จึงทำให้เชื่อกันว่าเป็นนกผีหรือนกปีศาจ
 
ซึ่งในเรื่องนี้ ได้ปรากฏเป็นข่าวครึกโครมผ่านหน้าหนังสือพิมพ์เมื่อกลางเดือนกันยายน พ.ศ. 2552 ว่าที่วัดแห่งหนึ่งที่อำเภอเสนา จังหวัดอยุธยา ชาวบ้านและพระที่จำวัด ณ วัดแห่งนั้น เชื่อว่าเมื่อใดที่นกแสกที่วัดส่งเสียงร้องดัง หรือเสียงแปลกๆ จะมีคนตายส่งมาฌาปณกิจเสมอ โดยในช่วงเวลาที่เป็นข่าวก็มีคนตายไปแล้วถึง 6 คนด้วยกัน
 
พระครูโสภณพรหมคุณ หรือ หลวงพ่อตึ๋ง วาจาสิทธิ์ เจ้าคณะอำเภอเมืองนครนายกและเจ้าอาวาส วัดพราหมณีหรือวัดหลวงพ่อปากแดงศักดิ์สิทธิ์ แสดงทรรศนะเกี่ยวกับความเชื่อเรื่อง นกแสก หรือ นกผี ไว้อย่างน่าสนใจว่า อาตมาอาจไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญหรือนักวิทยาศาสตร์ แต่มีความรู้ตามที่ร่ำเรียนมาอยู่บ้าง ครูบาอาจารย์ท่านสั่งสอนสืบทอดกันมา ไม่เชื่อก็ไม่ได้ เพราะเป็นสิ่งลี้ลับพิสูจน์กันยาก เอาเป็นว่าใครเชื่อก็เชื่อ ใครไม่เชื่อก็ว่ากันไป ขึ้นอยู่กับวิจารณญาณก็แล้วกัน โดยเฉพาะเรื่องนกแสกเป็นความเชื่อของคนโบราณมาช้านานแล้ว ถ้าบ้านใดมีคนเจ็บไข้หรือว่ามีคนป่วยถ้าตกกลางคืนมีนกแสกหรือนกผีมาร้องมัน ก็เหมือนกับว่าเป็นลางบอกเหตุจะมีคนเสียชีวิตเกิดขึ้นที่บ้านนั้นๆ ภายใน 3 วัน 7 วัน แต่ทว่าในปัจจุบันคนสมัยใหม่ส่วนใหญ่มักจะไม่ค่อยมีความเชื่อกันมากนัก คิดว่ามันล้าสมัยและไม่สามารถพิสูจน์ได้
 
ยิ่งถ้าบ้านไหนถึงคราวเคราะห์หามยามร้าย หรือว่าจะมีภัยพิบัติเกิดขึ้นถึงขั้นจะมีคนเสียชีวิต คนโบราณจะให้สังเกตดีๆ จะมีนกแสกหรือนกผีบินมาเกาะหลังคาบ้านและส่งเสียงร้องดังลั่น วันต่อมาก็จะมีคนตายเกิดขึ้นที่บ้านหลังนั้น คนโบราณเขามีความเชื่อถือกันมากเกี่ยวกับเรื่องนี้ โดยถ้าบ้านไหนมีนกแสกมาเกาะไม่ว่าจะส่งเสียงร้องหรือไม่ก็ตาม ผู้ใหญ่จะห้ามลูกหลานทันทีว่าอย่าไปเอ่ยปากทักอย่างเด็ดขาดโดยเฉพาะลูกหลาน ทุกคนจะถูกสั่งให้อยู่เฉยๆ ห้ามพูดอะไรทั้งสิ้น จนกว่านกแสกหรือนกผีจะบินไป ไม่เช่นนั้นจะต้องมีการตายเกิดขึ้นที่บ้านหลังนั้น
 
ถ้าใครก็ตามที่ได้เคยพบและประสบมาแล้วแต่ ดวงยังไม่ถึงฆาตก็อย่าไปกลัว ตั้งสติให้มั่นและใช้ความรู้พิจารณาให้รอบคอบ ที่สำคัญอาตมาอยากให้ญาติโยมทุก คนนั้นหมั่นทำบุญตามกำลังทรัพย์ตามกำลังศรัทธา เมื่อทำแล้วครอบครัวของเราก็จะมีแต่ความสุขความเจริญ เคราะห์หามยามร้ายก็จะผ่านพ้นไปด้วยดี
 
แม้ว่าในปัจจุบันวิทยาศาสตร์หรือสิ่งต่างๆ สามารถพิสูจน์กันได้ก็จริง แต่ศรัทธาและความเชื่อของผู้คนในสังคมเกี่ยวกับเรื่องโชคลางต่างๆ ยังไม่จางหายไปไหนง่ายๆ จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่หลายๆ สำนัก หลายๆ วัดกลายเป็นศูนย์รวมจิตใจกัน ในช่วงวันหยุดเสาร์-อาทิตย์หรือวันหยุดนักขัตฤกษ์มักมีผู้คนหลั่งไหลเดินทาง ไปกราบไหว้สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ขอพรขอโชคลาภกันเสมอ
 
หากใครคิดว่าตัวเองเคราะห์ร้ายหรือรู้สึก ไม่ดี ก็ควรสะเดาะเคราะห์ต่อชะตาเสียบ้าง มีให้เลือกตามความชอบและความศรัทธา อย่างวัดพราหมณีหรือวัดหลวงพ่อปากแดงก็มีพิธีสะเดาะเคราะห์นอนโลงศพแก้เคล็ด เหมือนตายแล้วเกิดขึ้นมาใหม่ จุดมุ่งหมายเพื่อขจัดปัดเป่าทุกข์โศกและโรคภัยไข้เจ็บ เคราะห์หามยามร้ายต่างๆ ให้หมดสิ้นไป ผู้คนมากมายที่เคยร่วมพิธีก็ผ่านพ้นอุปสรรคไปด้วยดี บางคนมีโชคลาภเป็นเศรษฐีมาแล้วก็มีเยอะ ดังนั้นอย่าไปท้อถอยต่ออุปสรรคและสิ่งต่างๆ ขนาดฟ้ายังมีมืดมีสว่าง ชีวิตคนก็เหมือนกันย่อมมีดีไม่ดีปะปนกันเป็นสัจธรรม และในเทศกาลออกพรรษาที่จะถึงนี้ที่วัดก็มีพิธีตักบาตรเทโว ตักบาตรข้าวต้มลูกโยน สืบสานประเพณีอันดีงามเพื่อเป็นสิริมงคล ว่างๆ ก็เชิญทำบุญทำทานกันได้ หากเรามีพลังบุญคุ้มครอง อาถรรพณ์นกแสกร้อยตัวพันตัวร้องก็ทำอะไรไม่ได้ เพราะเรามีคุณพระอยู่กับตัว เรื่องแบบนี้ไม่เชื่ออย่าลบหลู่เชียว
 
นก แสก หรือ นกแฝก หรือ นกเค้าหน้าลิง เป็นนกชนิดหนึ่งในวงศ์นกเค้าแมว (Tytonidae) วงศ์ย่อย Tytoninae มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Tyto alba จัดเป็น 1 สายพันธุ์ในจำนวน 19 สายพันธุ์ของนกในวงศ์เค้าแมวที่พบได้ในประเทศไทย และนับเป็นนกแสกสายพันธุ์หนึ่งที่พบได้ในประเทศไทย (อีก 1 สายพันธุ์นั้นคือ นกแสกแดง)
 
นกแสก มีลักษณะใบหน้าเป็นรูปหัวใจ ตาใหญ่ ตั้งอยู่ทางด้านหน้าของหัว คอสั้น ปีกยาว หางค่อนข้างสั้น ขาและนิ้วแข็งแรง มีขนปกคลุมแข้งเกือบถึงนิ้ว ปลายนิ้วเป็นกรงเล็บ โดยกรงเล็บของนิ้วที่ 3 มีลักษณะหยักคล้ายซี่หวีทางด้านขอบด้านใน ทั้ง 2 เพศมีลักษณะเหมือนกัน แต่เพศเมียจะมีขนาดใหญ่กว่าเล็กน้อย สีทางด้านล่างลำตัวและใต้ปีกเป็นสีน้ำตาลอ่อนเกือบเป็นสีขาว มีจุดลักษณะกลมรีสีน้ำตาล หรือสีเทากระจายอยู่ทั่วไป
 
ทางด้านบนลำตัวและขนปกคลุมปีกสีเหลืองทอง มีจุดสีน้ำตาลเข้มกระจายอยู่ทั่วไปเช่นเดียวกัน บริเวณใบหน้ามีสีขาว ไม่มีจุดใดๆ มีขนสีน้ำตาลเข้มเป็นขอบอยู่รอบนอก ม่านตาสีดำ ใบหน้าเป็นสีขาว ปากเรียว แหลม และจะงอยปากเป็นปากขอ ขนาดโตเต็มที่สูงประมาณ 1 ฟุต
 
นกแสกเป็นนกที่หากินในเวลากลางคืน โดยมากพบในถิ่นที่ใกล้กับชุมชนของมนุษย์ โดยจะอาศัยอยู่ตามสิ่งก่อสร้างที่มีความสงบ เช่น หลังคาโบสถ์ในวัดวาต่างๆ หรือบ้านร้าง, ซอกมุมตึกหรือโพรงไม้ จึงนับได้ว่าเป็นนกจำพวกนกเค้าแมวที่มีความใกล้ชิดกับมนุษย์มากที่สุด ในป่าพบตั้งแต่พื้นราบจนกระทั่งความสูง 1,200 เมตรจากระดับน้ำทะเล มักพบอยู่โดดเดี่ยว เป็นคู่ หรือเป็นครอบครัว ไม่ค่อยที่อยู่เป็นฝูงใหญ่
 
ในตอนกลางวันหากมีสิ่งรบกวนจะพยายามหลบไป หามุมมืดของแต่ละแหล่งที่อยู่อาศัยนั้นๆ บางครั้งก็บินไปยังที่อื่นๆ ซึ่งก็ห่างไกลพอสมควรเมื่อเห็นว่าปลอดภัยแล้วจึงจะบินกลับมายังที่เดิม ในตอนพลบค่ำหรือตอนกลางคืน นกแสกจะมีความคล่องแคล่วว่องไวพอสมควร เมื่อเทียบกับตอนกลางวัน
 
นกแสกออกหากินในตอนกลางคืน กลับเข้ามายังที่พักอาศัยในตอนรุ่งสาง นกแสกร้องเป็นเสียงดังกังวานโดยออกเป็นเสียง “แสก-แสก” อัน เป็นที่มาของชื่อ จะได้ยินเสียงร้องเฉพาะในตอนกลางคืนเท่านั้น โดยจะร้องเพื่อเตือนนกตัวอื่นมิให้เข้ามาในอาณาเขตหาอาหารของตัว นกแสกโดยเฉพาะตัวผู้จะมีอาณาเขตหาอาหารกว้างได้ถึง 40 ตารางกิโลเมตร
 
 
 โดย อัลเบิร์ต กิ๊กก๊อก 
http://horamahawed.com

อาหาร สำหรับคนนอนดึก

เขียนโดย มิตรภาพการพิมพ์,ออกแบบสื่อสิ่งพิมพ์ทุกชนิด,รับวาดรูปล้อเลียน,

อาหารสำหรับคนนอนดึก

            การนอนดึกเป็นสิ่งที่ไม่ดีต่อสุขภาพ แต่ถ้าหากจำเป็น ปัญหาหนึ่งที่พบเจอกันบ่อย ๆ ก็คือรู้สึกหิว วันนี้เรามีอาหารที่เหมาะสมกับคนที่ต้องนอนดึกมาฝาก

            หลายท่านต่างก็เคยมีภารกิจจำเป็นที่ทำให้ต้องนอนดึก ทั้งเร่งสะสางงานให้เสร็จ อ่านหนังสือสอบ ดูบอล หรือ ติดซีรี่ส์เกาหลี แตกต่างกันไป และเมื่อต้องนอนดึก ก็จะต้องรู้สึกหิว แต่อาหารที่เลือกทานเข้าไปแน่ใจแล้วเหรอว่าจะมีประโยชน์ต่อร่างกาย วันนี้จึงมีอาหารแนะนำสำหรับคนที่จำเป็นต้องนอนดึกมาฝาก

            คนที่นอนดึกหรือคนอดนอน  อาหารที่เหมาะกับคนประเภทนี้คือ ขนมปัง อาหารประเภทปลา และผัก เพราะอาหารเหล่านี้ถือว่าให้คุณประโยชน์เทียบเท่ากับการทานอาหารมื้อหนัก ๆ ในตอนกลางวันเลยทีเดียว ควรงดอาหารประเภทเนื้อสัตว์ เช่น เนื้อวัว เนื้อหมู เนื้อไก่ เพราะ ย่อยยากทำให้ลำไส้ต้องทำงานหนัก และควรเคี้ยวอาหารให้ละเอียดเพื่อแบ่งเบาภาระการทำงานของลำไส้ ที่ควรจะต้องเป็นเวลาพักผ่อนมากกว่า

            แต่ถ้าทานของดังที่แนะนำแล้วยังคงหิวอยู่ ให้ ทานผลไม้และโยเกิร์ตต่อ เพราะสารอาหารในผลไม้และโยเกิร์ตจะช่วยทำให้ร่างกายกระฉับกระเฉง และไม่รู้สึกอ่อนเพลียในเช้าวันรุ่งขึ้น หรือจะดื่มน้ำขิงอุ่น ๆ ผสมน้ำผึ้ง หรือน้ำอุ่นธรรมดาก็ได้ และควรหลีกเลี่ยงน้ำเย็น หรือ น้ำอัดลม เพราะจะทำให้ระบบอวัยวะภายในร่างกายทำงานหนัก เพราะร่างกายต้องการความร้อนในการช่วยย่อยอาหาร หากดื่มน้ำเย็นจะทำให้ร่างกายต้องปรับอุณหภูมิให้อุ่นก่อน จึงสามารถนำไปใช้ในช่วยระบบย่อยอาหารได้.



ขอบคุณเนื้อหา เดลินิวส์

ออกแบบป้าย โครางการบ้านเอกธงชัย

เขียนโดย มิตรภาพการพิมพ์,ออกแบบสื่อสิ่งพิมพ์ทุกชนิด,รับวาดรูปล้อเลียน,

วันนี้มีเฮียคนหนึ่งท่านทำธุระกิจเกี่ยวกับโครงการบ้านจัดสรรค์อะไรซักอย่างครับไม่แน่ใจ ท่านได้ส่งเมล์เข้ามา ให้ทำป้ายประกาศขายบ้านในโครงการ

โดยมีหัวข้อและบทความไว้ให้เรียบร้อย ขอแบบสีเขียวสดใสนะ ไอ้หลานชาย ไม่ต้องมีอะไรมากเอาง่ายๆ สั่นเว็บเดียวจบ

พอได้อ่านเช่นนี้แล้วจะรอช้าอยู่ใย รีบไปตามทัพหลวงมาบัดเดี๋ยวนี้ (อันนี้ไม่เกี่ยว) ข้าพเจ้าก็เลยจัดไปตามต้องการจาก Photoshop ,เป็นเว็กเตอร์,จากเว็กเตอร์เป็น Photoshop ไปๆมาๆก็ออกมาแบบสดๆ ซิงๆแบบนี้แหละครับ ส่องไปส่องมาน่าจะพอได้ โทรตามเฮียเชิญมาดูแบบครับ  เพียงเดินเข้ามาเท่านั้นและ "โอ้ย" (ผมตกใจสงสัยไม่ผ่านแน่เรา คิดในใจ) สุดยอดไอ้หลานชายเอาแบบนี้และสีเขียวๆง่ายไม่มากมาย 5555+  หวานหมูจ่ายตังผมด้วยนะครับเฮียอย่าลืมซะหล่ะ

กีฬาชนิดหนึ่งที่กำลังเป็นที่นิยมในหมู่วัยรุ่นต่างประเทศ

เขียนโดย มิตรภาพการพิมพ์,ออกแบบสื่อสิ่งพิมพ์ทุกชนิด,รับวาดรูปล้อเลียน,


กีฬาชนิดหนึ่งที่กำลังเป็นที่นิยมในหมู่วัยรุ่นต่างประเทศครับ เคยเอามาประกอบภาพยนตร์ในประเทศไทยแล้ว กับเรื่องท้าชนที่พี่แบงค์แสดงนั่นเอง แต่ยังไงก็ตามกีฬาประเภทนี้ถือว่าอยู่ในระดับอันตรายมาก
หากต้องการฝึกควรอยู่ในความดูแลของผู้มีความชำนาญเป็นอย่างดี สวัสดี



ดูหนังออนไลน์ Fast & Furious 5 เร็วแรงทะลุนรก 5 [พากย์ไทย]

เขียนโดย มิตรภาพการพิมพ์,ออกแบบสื่อสิ่งพิมพ์ทุกชนิด,รับวาดรูปล้อเลียน,

ดูหนังออนไลน์ Fast & Furious 5 เร็วแรงทะลุนรก 5 [พากย์ไทย] เรื่องย่อ Fast & Furious 5 เร็วแรงทะลุนรก 5 [พากย์ไทย] วิน ดีเซล และพอล วอล์กเกอร์ นำทีมการกลับคืนจอแบบคืนสู่เหย้าของเหล่าดาราดังจากทุกภาคของภาพยนตร์ แฟรนไชส์สุดฮิตซิ่งติดล้อใน Fast Five ในภาคนี้ ไบรอัน โอคอนเนอร์ อดีตตำรวจ (พอล วอล์กเกอร์) จับคู่กับอดีตวายร้าย ดอม โทเร็ตโต้ (วิน ดีเซล) ซิ่งไปบนถนนคนละฝั่งกับกฎหมาย ดเวย์น จอห์นสัน ขอร่วมทีมนักแสดงขวัญใจคนดูอย่าง จอร์ดาน่า บรูว์สเตอร์ , คริส “ลูดาคริส” บริดเจส , ไทรีส กิ๊บสัน , ซุง กัง , กัลป์ กาด็อท , แม็ตต์ ชุลซ์ , เทโก้ คัลเดอรอน และดอนโอมาร์ ในงานซิ่งส์เดิมพันสูงสุดเท่าที่เคยมีมา นับแต่ที่ไบรอัน และมีอา โทเร็ตโต้ (บรูว์สเตอร์) ช่วยดอมให้พ้นจากการโดนควบคุมตัว พวกเขาซิ่งส์ข้ามชายแดนเพื่อหลบหนีทางการ บัดนี้ เมื่อย้อนกลับมายังมุมถนนในรีโอ เดอ จาเนโร พวกเขาต้องรับงานสุดท้ายเพื่ออิสรภาพ ขณะที่พวกเขาทำการรวบรวมบรรดานักซิ่งระดับตีนผี กลุ่มพันธมิตรที่ไม่น่ามารวมกลุ่มด้วยกันได้ รู้ดีว่าโอกาสเดียวของพวกเขาที่จะได้รับอิสรภาพก็คือการเผชิญหน้ากับนัก ธุรกิจคอรัปชั่นที่ต้องการให้พวกเขาตาย แต่หมอนั่นไม่ใช่เพียงคนเดียวที่ตามล่าพวกเขาอยู่ ลุค ฮ็อบบ์ส เจ้าหน้าที่หัวแข็ง (จอห์นสัน) ทำงานไม่เคยพลาดเป้า เมื่อเขาได้รับมอบหมายให้ตามล่าตัวดอมและไบรอัน เขากับทีมจู่โจมเปิดฉากภารกิจโจมตีทุกวิถีทางเพื่อจับตัวสองขาซิ่งส์ให้ได้ แต่เมื่อคนของเขาทำบราซิลแทบแตก ฮ็อบบ์สได้เรียนรู้ว่าเขาไม่สามารถแยกคนดีออกจากคนเลวได้ บัดนี้ เขาต้องพึ่งสัญชาตญาณตัวเองเท่านั้นเพื่อไล่เหยื่อให้จนมุม…ก่อนที่จะมีคน อื่นถึงตัวพวกเขาก่อน






ดูหนังออนไลน์ Fast & Furious 5 เร็วแรงทะลุนรก 5 [พากย์ไทย]



















สำรองครับ        
            
            
            
            
     

ดูหนังเรื่องลัดดาแลนด์

เขียนโดย มิตรภาพการพิมพ์,ออกแบบสื่อสิ่งพิมพ์ทุกชนิด,รับวาดรูปล้อเลียน,

ดูหนังออนไลน์ ลัดดาแลนด์

ดูหนังออนไลน์ ลัดดาแลนด์

เรื่องย่อ ลัดดาแลนด์

บ้าน ปัจจัยสี่ในฝันที่ทุกคนอยากเป็นเจ้าของ ธีร์ (สหรัถ สังคปรีชา)ก็เช่นกัน เขาก็เหมือนหนุ่มสาวอีกนับแสนนับล้านคนในกรุงเทพฯ ที่ไม่มีปัญญาซื้อบ้าน ลำพังเงินเดือนพนักงานออฟฟิศธรรมดาๆของธีร์ การเก็บหอมรอมริบหาเงินมาดาวน์บ้านเป็นภาระสาหัสเกินไป ทุกวันนี้ธีร์ เช่าอพาร์ตเมนต์เป็นที่อยู่ มันเป็นปมด้อยที่ทำให้เขารู้สึกผิดต่อทุกคนในครอบครัว ป่าน (ปิยธิดา วรมุสิก) – ภรรยาที่แม่ยายพร่ำกรอกหูอยู่ตลอดเวลาว่าเขากระจอกเกินไปสำหรับเธอ แนน – ลูกสาววัยรุ่นที่ธีร์ ไม่เคยได้อยู่ร่วมชายคาเพราะส่งไปให้แม่ยายช่วยเลี้ยงดู นัท – ลูกชายวัย 5 ขวบ ที่ยังเดียงสาพอจะเห็นพ่ออย่างเขาเป็นฮีโร่ ในวัยย่าง 40 ธีร์ คิด ว่าตัวเองคงเป็นสามี เป็นพ่อ เป็นหัวหน้าครอบครัวที่ไม่เอาไหนหากไม่สามารถมีบ้านสักหลังไว้เป็นหลัก ประกันความสุขของ “ครอบครัว” โอกาสมาถึงเมื่อธีร์ ได้รับข้อเสนอ เป็นตำแหน่งผู้ช่วยฝ่ายการตลาดที่บริษัทแห่งหนึ่งในจังหวัดเชียงใหม่ ด้วยเงินเดือนที่มากขึ้นและค่าที่ดินที่ถูกลง บ้านเดี่ยวหลังใหญ่แบบในหนังโฆษณาก็ไม่ใช่ฝันที่เกินเอื้อมอีกต่อไป ธีร์ ตัดสินใจทิ้งชีวิตเก่าเพื่อไปตั้งรกรากในบ้านที่เขาเฟ้นแล้วเฟ้นอีกว่าดีที่ สุดโดยไม่ฟังคำทัดทานของทั้งเมียและลูก ธีร์ เชื่อว่าครอบครัวของเขาจะมีความสุขมากกว่าที่ หมู่บ้านลัดดาแลนด์ บนโต๊ะอาหารในบ้านหลังใหม่ที่อบอวลไปด้วยความอบอุ่น ธีร์ ยิ้ม อย่างภาคภูมิ ที่ในที่สุดครอบครัวของเขาก็ได้มาอยู่กันพร้อมหน้า…โดยไม่รู้ว่าในค่ำคืน เดียวกันนั้นเอง มีเด็กรับใช้ชาวพม่าของบ้านหลังหนึ่งในหมู่บ้านถูกฆาตกรรมอย่างทารุณ คนร้ายสาดเธอด้วยน้ำกรดจนใบหน้าแหลกเหลวแล้วทุบตีเธอจนตายก่อนนำศพไปยัดไว้ ในตู้เย็น…“หมู่บ้านไหนๆก็มีคนตาย” แต่ไม่ใช่ทุกหมู่บ้านจะได้ประสบกับสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นใน ลัดดาแลนด์


ดูหนังออนไลน์ ลัดดาแลนด์







































ดูหนังออนไลน์ จั๊กกะแหล๋น

เขียนโดย มิตรภาพการพิมพ์,ออกแบบสื่อสิ่งพิมพ์ทุกชนิด,รับวาดรูปล้อเลียน,

ดูหนังออนไลน์ จั๊กกะแหล๋น จั๊กกะแหล๋น | เรื่องย่อ จั๊กกะแหล๋น กลับมาสร้างความสำราญบานเบิกเอิกเกริกเสียงฮาอีกครั้งในหนังใหม่ชื่อสุด จี๊ด ว่า จั๊กกะแหล๋น ผลงานกำกับล่าสุดของผู้กำกับหน้าเหลี่ยมไอเดียสุดหรรษากับเรื่องราวสุด อลหม่านบานตะไทเจ็ดย่านน้ำ เมื่อคุณลุงหน้าเหลี่ยม ปากร้ายใจดีอย่าง ลุงแสวง (หม่ำ จ๊กมก) ต้องรับอาสาโดดลงมาร่วม ภารกิจซิ่งระห่ำฮา (ซะงั้น!!!) เพราะหลานสาวตัวดีที่มักจะไปไหนมาไหนด้วยจักรยาน Fixed Gear คู่ใจอย่าง จั๊กกะแหล๋น (จีจ้า ญาณิน) พร้อมเพื่อนซี้สุดป่วนฮาอย่าง แนว (ตั๊ก บริบูรณ์) และลูกพี่สุดบ๊องบวมอย่าง พี่สำเริง (ค่อม ชวนชื่น) ดันอุตริไปรับจ้างส่งของเถื่อนให้พวกมาเฟียขาโหดจนเกิดเป็นเรื่องเป็นราว ใหญ่โตคาดไม่ถึงขึ้น แล้วไหนจะปัญหารักสามเส้าเคล้าเสียงฮาของจั๊กกะแหล๋น , พ่อครัวหัวป่าก์หล่อลากดิน ด่วน (เฉลิม แย้มขะมัง) และนักดนตรีหนุ่มสุดเซอร์ พงษ์ (จ๊ะ อธิศ อมรเวช) ที่มะรุมมะตุ้มรุมเร้าให้ปั่นป่วนหัวใจเข้าอีก เมื่องานเข้าเต็มๆ จนหมดทางหนีทีไล่ ชิ่งไปไหนก็ไม่ได้อย่างงี้ ทั้งลุงแซบ-หลานซ่าส์จึงต้อง “ซิ่งไปฮาไป” (แถมซึ้งไปด้วย) อย่างไม่ทันตั้งตัวงานนี้รับรองได้มีเฮเทกระจาด เพราะ “หม่ำจัดฮา จีจ้าจัดให้” แน่นอน ดูหนังออนไลน์ จั๊กกะแหล๋น











หลวงปู่สรวง อริยสงฆ์ผู้อยู่เหนือโลก

เขียนโดย มิตรภาพการพิมพ์,ออกแบบสื่อสิ่งพิมพ์ทุกชนิด,รับวาดรูปล้อเลียน,

เรื่อง ราวของหลวงปู่สรวง พระอริยะสงฆ์ผู้พิสดารที่อยู่เหนือกาลเวลา ได้มีผู้เคยถาม หลวงปู่ฤทธิ์ รตนโชโต วัดชลประทานราชดำริ ว่า หลวงปู่รู้จัก หลวงปู่สรวง แห่งท้องทุ่งศรีสะเกษ หรือเปล่าครับ? หลวงปู่ฤทธิ์ ท่านบอกว่ารู้จัก และรู้จักมานานแล้ว เมื่อ คราวที่หลวงปู่ฤทธิ์ ทำบุญวางศิลาฤกษ์ สร้างศาลาการเปรียญหลังใหญ่ ที่วัดชลประทานราชดำริ หลวงปู่สรวงท่านก็มา เวลาท่านมาท่านก็มาของท่านเองไม่รู้ว่าท่านมาเมื่อไหร่ มารู้อีกทีก็เมื่อตอนที่เห็นท่าน เวลาท่านจะไปท่านก็ไปท่านเดินออกไปทางป่าด้านโน้น อยู่ด้านหน้าศาลาเป็นป่ากว้างมีน้ำท่วมขังเล็กน้อย ท่านเดินตรงไปแต่พอมองออกไปจะเห็นฝูงสัตว์เดินตามท่านเป็นพรวนแล้วสักพัก ท่านก็หายไป หลวงปู่ฤทธิ์ ท่านยังได้พูดว่า เรื่อง หลวงปู่สรวงพูดไปแล้วก็เหมือนกับนิยาย เป็นเรื่องเหลือเชื่อ แต่ท่านก็มีตัวตนจริง เมื่อหลายสิบปีก่อน ได้พบเห็นท่านอย่างไร เดี๋ยวนี้ก็เห็นท่านเหมือนเดิม ตัวของหลวงพ่อเองนี่ซิแก่ลงไปทุกวันทุกปีนี่ก็อายุ82 แล้วแต่หลวงปู่สรวงท่านก็อยู่ของท่านอย่างนั้น ส่วนเรื่องอายุของ หลวงปู่สรวงนั้น หลวงปู่ฤทธิ์ท่านก็บอกว่า ท่านไม่รู้เหมือนกันว่าเท่าไหร่?.... สถานที่จำวัด เมื่อตอนที่พบ หลวงปู่สรวงก็คือ กระท่อมเฝ้านากลางท้องทุ่งริมถนนหมู่บ้านละลม-สะเดา ชายแดนด้านเขมร เป็นกระท่อมยกพื้นสูงมุงหลังคาด้วยไม้กระดานเก่าๆ กันลมกันฝนไม่ค่อยได้ ในวันนั้นหลวงปู่สรวงท่านนอนอยู่ในกระท่อม มีชายชราผมขาวนั่งเฝ้าอยู่ใกล้ ๆ คอยบีบนวดให้หลวงปู่สรวง นอกกระท่อมมีชายหญิงชาวบ้าน 4-5 คนนั่งคุยกันอยู่เป็นชาวบ้านย่านนั้น ข้างฝากระท่อมมีว่าวจุฬาตัวใหญ่เหน็บข้างฝาอยู่ 1 ตัว มีเตาเล็กๆ แลและหม้อหุ้งข้าวเก่าๆวางอยู่ 1 ชุด และก็มีถังใส่น้ำขุ่นๆเข้าใจว่าจะตักมาจากหนองน้ำกลางทุ่งที่อยู่ใกล้ ๆ หน้ากระท่อมหลวงปู่สรวงมีแคร่ไม้ยาว สำหรับนั่ง พวกเราทุกคนเข้าไปกราบท่าน ท่านก็ลุกขึ้นมาแต่ท่านไม่พูดจาอะไร ในปากของท่าน ก็เคี้ยวใบพลูสดอยู่ตลอดเวลา มีพวกผมคนหนึ่งถามท่านว่า หลวงปู่อายุเท่าไรแล้ว ท่านก็ตอบเป็นภาษาส่วย ซึ่งผมเองและเพื่อนที่ไปจากกรุงเทพ ก็ฟังไม่เข้าใจ แต่พรรคพวกที่ศรีสะเกษแปลว่าให้ฟังว่า เรื่องของอดีตลืมไปหมดแล้ว ชื่ออะไรก็จำไม่ได้ เขาเรียกว่าปู่สรวง ก็ปู่สรวง ชื่อเสียงมันก็ไม่ใช่ตัวของเราจะเรียกยังไงก็ได้ ถ้ามาคิดกันอีกแง่นึงก็เหมือนกับว่า ท่านได้สอนธรรมะชั้นสูงให้กับพวกเราให้รู้ว่า ให้มีแต่ปัจจุบันเพราะสิ่งทั้งหลายมันผ่านไปแล้ว มันเป็นเรื่อง สมมุติทั้งนั้น....



ว่าว จุฬาตัวใหญ่ที่เหน็บ ไว้ที่ข้างฝากระต๊อบก็เป็นสิ่งที่สะดุดใจของคณะพวกผม จึงไต่ถาม ชาวบ้านที่มาเฝ้าดูแลท่าน ชาวบ้านบอกว่า หลวงปู่ท่านชอบเล่นว่าว และชอบดูเขาตีไก่ชนกัน ตอนหน้าแล้งชาวบ้านทั่งเด็กและผู้ใหญ่จะไปเล่นว่าวกันที่กลางทุ่ง หลวงปู่สรวงท่านจะนั่งดูยิ้มหัวเราะด้วยความชอบอกชอบใจ บางคนยังเล่าว่า บางครั้งหลวงปู่สรวงท่านหายไปว่าวตัวที่เหน็บอยู่ก็หายไปด้วย เมื่อเห็นว่าเหน็บอยู่ที่กระต๊อบนั่นก็คือหลวงปู่ท่านต้องอยู่ที่กระต๊อบ อย่างแน่นอน ผมก็เลยถามว่าเวลาหลวงปู่สรวงท่านออกไปไหนทำไมคนที่เฝ้าอยู่ไม่รู้ ? พวกเขาบอกว่ามาดูแลท่านเฉพาะตอนกลางวัน พอกลางคืนต่างคนก็กลับบ้านในกระต๊อบก็จะมีหลวงปู่สรวงท่านอยู่รูปเดียว เมื่อท่านหายไปไหนจึงไม่มีใครรู้ ชาวบ้านในกลุ่มที่เล่าบางคนถึงกับบอกว่า ท่านบินไปพร้อมกับว่าว ส่วนเรื่องที่ท่านชอบดูเขาตีไก่ชนนั้นก็เป็นเรื่องจริง เพราะมีบ่อยครั้งที่ที่มีการตีไก่จะเห็นหลวงปู่สรวงไปนั่งดูอยู่ด้วย และท่านก็จะหัวเราะชอบใจตบมือตบไม้เชียร์ไก่ก็ยังมี การที่มีผู้คนส่วนใหญ่ไปหาท่านมักจะเป็น เรื่องของตัวเลข เพื่อเอาไปแทงหวย ยิ่งใกล้วันที่หวยออกจะมีรถราหลายสิบคันไปจอดเรียงรายอยู่ใกล้ๆกระต๊อบที่ ท่านจำวัด ถ้าใครได้ยินหรือได้ฟังว่าหลวงปู่สรวงทำอะไรออกมาเป็นตัวเลข พวกเขาก็จะคิดกันไปต่างๆนาๆบางคนก็ถูกบางคนก็ไม่ถูก มีคนเล่าให้ฟังว่า คนที่ถูกหวยได้เงินจำนวนมากๆ หลายรายนำเงินสดไปถวายท่าน ท่านก็หยิบขึ้นมาดูแล้วก็โยนเข้ารกเข้าพงไปทั้งปึก คนที่เห็นเหตุการณ์ ก็เข้าไปหาแต่ก็หาไม่พบทั้งๆที่เงินจำนวนไม่ใช่น้อยและบางครั้ง ก็มีผู้นำเงินไปถวายท่าน เวลาที่เขากลับหลวงปู่สรวงท่านก็ขออาศัยรถเขาไปด้วยเมื่อรถแล่นไปตามถนนที่ มีผู้คนมากๆหลวงปู่ท่านก็จะเอาเงินที่พวกเขาถวายออกมาโปรยไปตามถนนที่รถวิ่ง ให้กับผู้คนที่ยากจน นับเป็นที่ร่ำรือและฮือฮากันมาก

สมัย ที่มีสงครามช่วงชิงอำนาจของเขมรยังรุ่นแรงอยู่ ก็มีผู้คนอพยพมาตามแนวชายแดนเป็นจำนวนมาก มีคนเล่าว่าหลวงปู่สรวงท่านจะเปลี่ยนเป็นนุ่งขาวห่มขาวออกไปรับผู้ที่อพยพ เข้ามาทางชายแดน จุดใดที่ท่านออกไปรับผู้ที่อพยพก็มักจะปลอดภัยจากปืนใหญ่และการติดตามของ ทหารเขมร บางวันหลวงปู่สรวงท่านก็จะเอาผ้าสีขาวปักเป็นธงไว้ในที่สูงให้เห็นกันอย่าง ชัดเจน ชาวเขมรที่อพยพก็จะไปอยู่กันตรงที่หลวงปู่ปักธงสีขาวเอาไว้ วันนั้นถ้าจะมีปืนใหญ่ถล่มยิงมาตามแนวชายแดน ผู้คนที่อพยพมาอยู่ตรงที่หลวงปู่สรวงปักผ้าขาวเอาไว้ก็จะปลอดภัยจากลูก กระสุนปืนใหญ่

ภาย หลังจากที่สงครามการช่วงชิงอำนาจของเขมรสิ้นสุดลง หลวงปู่สรวงท่านก็พักอยู่ที่กระต๊อบเฝ้านาด้านชายแดนเขมรแถว อำเภอ ขุขันธ์ เวลากลางวันก็มีชาวบ้านแถวนั้นมาคอยดูแลปรนนิบัติรับใช้ท่าน เวลากลางคืนหลวงปู่สรวงก็อยู่ของท่านรูปเดียว บางครั้งท่านก็จะหายไปนานๆ ท่านถึงจะกลับมา เมื่อมีผู้คนเดินทางไปหาท่านเขาก็จะถามร้านตรงที่อยู่ตรงปากทางเข้าบ้าน ละลม-สะเดา ว่าหลวงปู่อยู่ หรือไม่? ถ้า หลวงปู่สรวงอยู่เขาก็จะบอกว่า ท่านกลับมาแล้วเมื่อคืนนี้ แล้วต่างก็เข้าไปหาท่านที่กระต๊อบเฝ้านา ไม่แห่งใดก็แห่งหนึ่ง ในท้องทุ่งนั้นเคยมีผู้นิมนต์ท่านไปเจิม ร้านวันเปิดร้านทำบุญขึ้นบ้านใหม่ก็มีอย่างปั๊ม ปตท. ปากทางเข้า อำเภอ ขุขันธ์ ที่พวกเราแวะเติมน้ำมันรถและรับประทานอาหารกลางวัน ก็ได้พบรูปหลวงปู่สรวงติดไว้ในร้านทั้งยังมีข้อความใต้ภาพว่า “ หลวงปู่สรวง อายุ 500 ปี จำวัดทั่วจักรวาล” ทางเจ้าของร้านได้นิมนต์หลวงปู่สรวงท่านมาเปิดร้านให้ ปั๊มก็เจริญมาตลอดจนเป็นปั๊มใหญ่ดังที่ได้เห็นอยู่ทุกวันนี้

เรื่อง ของการเปิดป้ายร้านค้า ชาวบ้านผู้หนึ่งที่ได้เฝ้าดูแลหลวงปู่สรวงอยู่เล่าให้ผมฟังว่า มีร้านค้าเปิดใหม่แถวนั้นได้นิมนต์หลวงปู่สรวงเปิดร้าน พอท่านสวดมนต์และฉันอาหารเสร็จท่านก็เดินออกมาหน้าร้านด้านนอกถลกจีวรยืนฉี ที่หน้าร้าน เจ้าของร้านรู้ทันจึงได้เข้าไปเอามือรองฉี่ของท่านสะบัดไปทั่วหน้าร้าน เจ้าของร้านที่เอามือรองฉี่เล่าให้ฟังภายหลังว่าฉี่ของหลวงปู่สรวงแทนที่จะ ร้อนหรืออุ่นๆ ที่มือฉี่ของท่านกลับเย็นเหมือนน้ำแข้งและเมื่อหวยออกงวดนั้น หมายเลขร้านค้าดังกล่าวตรงกับเลขของหวยที่ออกพอดี หลายคนที่อยู่ในที่นั้นเลยถือโอกาสรวยไปตามๆกัน บางรายได้นิมนต์ท่านสวดมนต์เย็นขึ้นบ้านใหม่ร่วมกับพระสงฆ์ที่มาจากที่อื่น เมื่อสวดมนต์เสร็จแล้วหลวงปู่สรวง ท่านจะลุกมาที่กลางบ้านนั่งถ่ายหนักอย่างหน้าตาเฉย ส่วนใหญ่เจ้าของบ้านก็จะรู้ทันรีบเอามือละเลงอึของท่านจนทั่วบ้าน เพราะเขารู้กันว่าอึของท่านไม่เหม็นแต่มีกลิ่นหอมคล้ายๆน้ำผึ้ง พฤติกรรมแปลกของหลวงปู่สรวง บางคนที่ไม่รู้ก็หาว่าท่านบ้าๆบอๆบางคนก็เห็นว่าท่านอยู่เหนือโลก บางคนเล่าให้ฟังอีกว่า ถ้าหลวงปู่สรวง ท่านจะไปไหนในเวลากลางวันท่านก็จะขอโดยสารรถไปดื้อๆ และก็ไม่มีรถคันไหนปฏิเสธท่าน ถ้ารถคันใดปฏิเสธท่านไม่ยอมให้ท่านไป รถคันนั้นก็จะขัดข้องเครื่องยนต์ก็จะดับบ้างติดบ้างหรือไม่ก็ยางแตกขับไปไหน ไม่ได้ ดังนั้นเวลาท่านต้องการที่จะโดยสารรถคันไหนไปจึงไม่มีใครที่จะกล้าปฏิเสธ บาง รายก็บอกว่าเมื่อท่านนั่งรถไปแล้วก็จะให้คนขับๆไปเรื่อยๆ ถ้าท่านให้หยุดส่งท่านตรงไหนท่านก็จะลงตรงนั้นแล้วท่านก็จะเดินหายไปเฉยๆ ไม่มีใครรู้ว่าท่านไปทำอะไรที่ไหน บางคนก็บอกว่าท่านกลับไปจำวัดที่กระต๊อบเฝ้านากลางทุ่งละลม-สะเดา แต่บางครั้งท่านก็จะหายไปนานๆ หลายๆวันแต่ก็ไม่มีใครทราบว่าท่านไปไหน จึงมีบางคนที่ถามท่านว่าท่านไปไหน ท่านก็ไม่ตอบ



วัตถุมงคลของหลวงปู่สรวงทุกชนิด โดดเด่นหลายทางตามคำอธิฐานดังนี้

1. บูชา 1 อาทิตย์ เห็นฤทธิ์ ทางเมตตามหานิยม เจ้านายรัก ติดต่อการงานดี

2. บูชา 2 อาทิตย์ เห็นฤทธิ์ ด้านโชคลาภ ค้าขาย ขายของดี ขายคล่อง เงินมาไม่ขาดสาย

3. บูชา 3 อาทิตย์ เห็นฤทธิ์ ด้านเสี่ยงโชค เล่นการพนัน เสี่ยงดวง หวยล็อตเตอรี่ เห็นผลแน่นอน หากผู้นั้นบูชาด้วยความศรัทธาแน่วแน่

4. เรื่องความปลอดภัยทางรถยนต์ แคล้วคลาด ไม่มีตายโหง

5. ขอได้ดังใจนึกทางด้านค้าขายธุรกิจเจริญรุ่งเรือง เวลาเดือดร้อนทางการเงิน ให้ทำพิธีบอกกล่าวจุดธูปบอกท่านและอาราธนาขอพรเช้าเย็น 9 จบ ท่านจะช่วยให้เห็นผลได้รับความสำเร็จสมหวังมามากแล้วไม่เชื่อทดลองเถิด

6. คงกระพันชาตรี ไว้ใจได้เห็นอภินิหารบ่อยๆ

7. ป้องกันคุณไสย์ แก้อาถรรพณ์ ป้องกัน ผีสางนางไม้ เจ้าที่เจ้าทางได้

8. เสริมดวง หนุนดวงชะตา

9. ป้องฟ้าผ่า ไฟไหม้ ได้

ตำแหน่งว่างโฆษณา
สามารถใส่รายละเอียดได้สามบันทัด
พร้อมรูปภาพช่วยในการดึงดูดลูกค้า
ด่วน!! รีบจองก่อนใคร
สนใจติดต่อ 085-418-7066
ตำแหน่งว่างโฆษณา
สามารถใส่รายละเอียดได้สามบันทัด
พร้อมรูปภาพช่วยในการดึงดูดลูกค้า
ด่วน!! รีบจองก่อนใคร
สนใจติดต่อ 085-418-7066
ตำแหน่งว่างโฆษณา
สามารถใส่รายละเอียดได้สามบันทัด
พร้อมรูปภาพช่วยในการดึงดูดลูกค้า
ด่วน!! รีบจองก่อนใคร
สนใจติดต่อ 085-418-7066
ตำแหน่งว่างโฆษณา
สามารถใส่รายละเอียดได้สามบันทัด
พร้อมรูปภาพช่วยในการดึงดูดลูกค้า
ด่วน!! รีบจองก่อนใคร
สนใจติดต่อ 085-418-7066